เลือกสายพานชนิด Molded Edge หรือ Cut Edge ดี??!!
ไหนๆก็พามาไกลอ่าวพอสมควรแล้ว NEW ก็เลยจะขอบอกต่ออีกแล้วกันว่าทำไมราคาของ Molded edge และ Cut edge ของผู้ผลิตจึงไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่า การผลิตแบบ Molded edge และ Cut edge ของผู้ผลิตจึงไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่า การผลิตแบบ Molded edge นั้นจะมีต้นทุนการผลิตที่น่าจะแพงมากว่าแบบ Cut edge เพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่า
ถ้าผู้ซื้อจำเพาะเจาะจงที่จะซื้อสายพานชนิด Molded edge อย่างเดียวเท่านั้น ผู้ผลิตก็จะต้องให้ราคาสูงอย่างแน่นอน แต่ถ้าท่านบอกเอาแบบ Cut edge (ซึ่งราคาวัสดุจะสูงกว่าแบบ Molded edge เล็กน้อย เนื่องจากต้องเพิ่ม EP ตรงขอบ 2 ข้างเพิ่มเติม) แต่ราคาวัสดุจะสูงกว่าแบบ Molded edge เล็กน้อย เนื่องจากต้องเพิ่ม EP ตรงขอบ 2 ข้างเพิ่มเติม) แต่ราคาต่อหน่วยโดยรวมน่าจะถูกกว่า ท่านอาจจะได้ราคาซึ่งต่ำกว่าก็ได้นะขอรับ
หากมองในแง่การใช้งาน หรือในภาคปฏิบัติการแล้ว การเลือกแบบสายพาน Cut edge น่าจะมีข้อได้เปรียบแบบ Molded edge อยู่หนึ่งช่วงตัว โดยเฉพาะเรื่องความแข็งแรงของปีกขอบสายพานทั้ง 2 ข้าง เพราะแบบ Cut edge จะมี EP เสริมแรงตลอดแนวตัด ส่วนแบบ Molded edge จะเป็นยางล้วนๆที่ขอบซึ่งเมื่อเกิดความเสียหายแล้วจะซ่อมแซมได้ยากกว่าแบบ Cut edge ดังนั้นสายพานไทยขอแนะนำให้ใช้แบบ Cut edge
สุดท้ายจริงๆก็แล้วกัน สำหรับสายพานแบบ Steel Cord นั้นท่านต้องเลือกใช้แบบ Molded edge เท่านั้นนะครับ เพราะผู้ผลิตจะไม่มีแบบ Cut edge ให้ เนื่องจากเค้าจะต้องหุ้มเส้นลวดรับแรงไว้เสมอเพราะลวดพวกนี้จะไม่ทนต่อการสัมผัสกับสารเคมี ความชื้นหรือน้ำ ซี่งจะทำให้เส้นลวดเกิดสนิมและสูญเสียคุณสมบัติในการรับแรงได้ง่ายๆ เลยนะครับ
*หมายเหตุ บางครั้งภาษาอังกฤษของคำว่า Cut edge ก็ใช้คำว่า Slit edge แทน ซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกันครับ
เป็นไงกันบ้างครับกับการเปิดเรื่องประเด็น & เปิดซิงครั้งแรก ของนาย NEW พอไปได้หรือเปล่าเอ่ย??
(ขอเช็คเรตติ้งนิดนึงก็แล้วกันครับ) ต่อไปนี้ New ก็จะขอแวะเวียนมาให้ข้อมูลความรู้กับแฟนคลับทุกท่านบ่อยๆเลยนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ
คงไม่มีใครตอบแน่ๆเชียว งั้น NEW ขอเป็นผู้เฉลยก็แล้วกัน แฟนคลับค่อยๆอ่านทำความเข้าใจ แล้วตัดสินใจกันเอาเองนะครับ
มาเข้าใจเกี่ยวกับประวัติการผลิตสายพานกันหน่อยดีใหม ?!? ในสมัยก่อน พวกผู้ผลิตสายพานทั้งหลายต่างก็พากันผลิตสายพานแบบให้ยางหุ้มชั้นผ้าใบรับแรงทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพราะว่าในสมัยก่อนใช้ Cotton และ Rayon เป็นชั้นผ้าใบรับแรง ซึ่งวัสดุทั้งสองชนิดนี้เมื่อถูกความชื้นและสารเคมีก็จะสูญเสียคุณสมบัติทำให้สายพานเสียหาย ผู้ผลิตก็เลยป้องกันโดยการหุ้มยางทั้งหมดเลยเสียดีกว่า วิธีการผลิตแบบนี้เลยเรียกว่า “ Molded edge “ แปลเป็นไทยตรงๆก็อาจจะแปลว่า (ยาง) หุ้มขอบ
ต่อมาโลกมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการนำวัสดุสังเคราะห์อย่างอื่นมาทำชั้นผ้าใบรับแรงแทน Coton และ Rayon โดยในปัจจุบัน นิยมใช้ EP ( Polyester – Nylon ) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานต่อความชื้นและสารเคมีได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการทำยางหุ้มขอบ(ส่วนมาก) ก็จะหมดความจำเป็นไป การผลิตที่ไม่ต้องมียางหุ้มขอบของสายพานนี้เรียกว่า”Cut edge” แปลเป็นภาษาไทยตรงๆว่า “ตัดขอบ” (ยาง)”ก็น่าจะพอไปได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าสภาพแวดล้อมของการทำงานที่จำเป็นต้องสัมผัสกับสารเคมีที่เข้นข้น หรือสารที่มีการกัดกร่อนสูงเช่น ในขบวนการผลิตสินแร่เหล็ก หรือขบวนการฟอกย้อม ซึ่งสารเคมีสามารถทำอันตรายต่อ EP ที่ใช้ ท่านก็ควรเลือกสายพานแบบ Molded edge โดยทั่วไปแล้วผู้ขายสายพาน หรือบริษัทสายพานไทยจะไม่รู้สภาพการใช้งานและสิ่งแวดล้อมของการใช้งานในโรงงานของท่าน ซึ่งตอนนี้ท่านต้องพึ่งตนเอง อัตหิอัตโนนาโถแล้วหละครับ เลือกใช้สายพานให้ถูกต้องและประหยัด โดยใช้หลักการที่ NEW ให้ไว้ข้างบนนี้แหละครับเป็นแนวทาง
NEW อยากจะบอก tip เล็กๆน้อยๆอีกนิดนึงว่า ราคาของสายพานแบบ Molded edge และแบบ Cut edge นั้นราคาจะไม่เท่ากัน ผู้ผลิตบางรายให้ราคาMolded สูงกว่า Cut edge แต่บางรายก็ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ท่านก็ไม่ต้องแปลกใจไปเลยนะครับ ให้หลักการข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับตัดสินใจ ถ้าเจ้าไหนเสนอราคาสายพานที่มี Spect เดียวกัน ต่างกันแค่ Molded edge และ Cut edge เจ้าไหนเสนอราคาถูกก็เลือกเจ้านั้นได้เลย ไม่ต้องคิดมาก New ฟันธง!!
วันที่ 25 สิงหาคม 2550 ในชีวิตของคนเรา บางครั้งเราเป็นผู้เลือก บางครั้งเราเป็นผู้ถูกเลือกบางครั้งจำเป็นต้องเลือก บางครั้งไม่มีทางเลือก แต่ครั้งนี้ M.D สั่งว่า “ไม่ต้องเลือก” ลงมือทำเลย
ครับ...วันนี้ผมนาย NEW น้องใหม่ (ใหม่สมชื่อ) ของ WE LOVE BELT ได้รับคำสั่งจาก M.D ให้เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองหน่อยซิ ตอนแรกที่ผมฟังก็งงๆอยู่...คุณค่าอะไรหว่า??!! คุณค่ามันเป็นตัวรูปร่างอย่างไงกัน ? สงสัยว่า M.D คงจะเบื่อหน่ายความบื้อของผมเต็มทนแล้วกระมัง ก็เลยสั่งกันตรงๆ โต้งๆ กันเลยว่า ก็เขียนเรื่องราวอะไรก็ด้ายที่มันเกี่ยวกับสายพานเพื่อแบ่งเป็นความรู้ให้กับแฟนคลับของเราหน่อยสิ อย่าตัวทำเป็นพวก innocent ไม่ประสีประสาอะไรเหมือน “ช้อนไม่รู้รสแกง” อยู่เลย ตัวเองมีข้อมูลมากกว่าชาวบ้านเขาทั้งทีก็งัดออกมาโชว์หน่อยสิ นี่แหละน้า ดวงคนมันจะดัง ไม่ต้องตีฆ้องก็ดังไม่รู้ตัวแบบนี้แหละ ถ้าอย่างนั้นNEW ขอมีชื่อประทับไว้ใน web เอาไว้คุยข่นเพื่อนสักครั้งก็ยังดี และก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนคลับทุกๆท่านด้วยนะขอรับ
เนื่องจากเป็นน้องใหม่ของที่นี่ ก็คงยังไม่มีความรู้ประเภทลึกลับซับซ้อนอะไรมากนัก NEW เลยขอทำตัวเป็นเหาฉลามหากินรอบๆ เรื่องที่คนอื่นเขียนไว้แต่ยังไม่สมบูรณ์นัก NEW ก็ขอเอามาต่อแขน-ต่อขาให้ครบก่อนก็แล้วกัน ขอเริ่มกันตรงเรื่องของ AV ที่เขียนเรื่องการบอกสเป็คสั่งซื้อสายพานสักหน่อย คิดว่าทางแฟนคลับก็คงจะได้อ่านรายละเอียดกันไปครบถ้วนแล้ว แต่ NEW คิดว่าที่ AV เขียนยังขาดบางส่วนที่ไม่ได้เขียนบอกไว้ นั่นก็คือจะสั่งซื้อสายพานแบบ Molded edge หรือCut edge ดี ??
เรื่องนี้ลูกค้าในเมืองไทยของเราก็คงยังไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้เท่าใดนัก (NEW คิดว่างั้นนะครับ) เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เวลาสั่งซื้อสายพานชอบใจที่จะได้สายพานแบบ Molded edge ซึ่งราคาจะแพงกว่าแบบ Cut edge คำถามก็อยู่ที่ว่าไอ้ที่ราคาแพงกว่า มันได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นคุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ? ใครรู้ช่วยเฉลยที่ด้ใหม ?
..........ขอพลังจงอยู่กับท่าน..........