วันที่ 11 พฤษภาคม 2552 สวัสดีแฟนคลับของ AV วันนี้ AV มีเวลาและมีโอกาสมารับใช้แฟนครับอีกครั้งหนึ่งหลังจากหายหน้าหายตาไปเสียเนิ่นนาน ก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลหรอกค่ะ ไปก้าวขาขุดทองหากินข้างๆประเทศไทยนี่เอง ทายดูซิค่ะว่า AV ไปขุดทองอยูที่ไหน..ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาหรอกค่ะ บอกได้เลยว่า AV ไปขุดทองที่ประเทศลาวค่ะอันที่จริง AV ไม่ได้เป็นคนถือจอบเสียมไปขุดทองเองจริงๆหรอกนะค่ะ แต่ AV ไปทำมาค้าขายกับบริษัท PBM (ออสเตรเลีย) ที่เป็นเจ้าของ (สัมปทานจากประเทศลาว) เหมืองทองชื่อเหมืองภูเบี้ย (PHUBIA) การทำมาหากินก็พอไปได้ค่ะ ไม่เลว และก็ไมได้ดีเลิศมากมาย AV เป็นคนตัวเล็กๆ (แต่น่ารักนะคะ) และทำอะไรก็ไม่ค่อยจะเก่งมากนักจะแข่งขันกับคนเก่งๆก็ต้องตายหยังเขียดแน่ๆ ก็เลยก็ต้องถือสุภาษิต “ไม่สูงต้องเขย่ง-ไม่เก่งต้องขยัน” หากินในประเทศไทยอย่างเดียวไม่พอ ก็ต้องขยันไปหากินต่างประเทศ พอได้ประคองตัวหนีตายไปพลางๆก่อนนะคะ พอมีเงินประทังชีวิต ในขณะที่ลูกค้าบ้านเราณ.เวลานี้ พ.ศ. นี้ดึงการชำระเงินแบบว่า...ยาว...ๆๆ...จน AV จะสิ้นใจแล้วล่ะค่ะ
เข้าเรื่องที่จะคุยกันเสียทีค่ะ เรื่องที่จะมาแชร์ประสบการณ์กับแฟนคลับวันนี้ใช้ชื่อเรื่องว่า “Impact Bed”
IMPACT BED UNDER CHUTE AREA
IMPACT BED IMPACT BED
ภาษาไทยจะแปลยังไงก็ยังไม่รู้ค่ะ “กระทบกันที่เตียง”…อุ้ย ฟังดูจักกะจี้เกินไปหน่อยนะคะ...ไม่เอาดีกว่า ขอใช้ทับศัพท์ไปพลางๆก่อนดีกว่านะค่ะ ให้เป็นมันเป็นอย่างนี้ไปก่อนนะคะ อ้าว...เข้าเรื่องกันซะที...ในการทำเหมืองแร่ เขาจะทำการระเบิดภูเขา
เหมืองภูเบี้ยประเทศลาว ขนาดสินแร่ก้อนโตๆทั้งนั้น
หรือขุดภูเขาเพื่อจะเอาก้อนสินแร่ที่มีแร่ทองคำ ทองแดง เงิน และแร่อื่นๆปะปนกันอยู่มาย่อยเป็นก้อนเล็กลง ที่นี่ปัญหาที่มันเกิดขึ้นก็คือ ก้อนสินแร่ที่ได้จากการระเบิดมักจะมีขนาดใหญ่ เมื่อถูกลำเลียงโดยระบบสายพานความเสียหายจะเกิดขึ้นกับตัวสายพาน ขณะที่แร่ก้อนใหญ่ๆตกกระทบสายพาน ถ้า Serious จริงๆอาจทำให้ผิวหน้า (Rubber Cover) ฉีกขาด
หลุดออก หรืออาจทำให้โครงสร้าง (Structure) ของผ้าใบ (Fabric) เสียหายได้ AV จะลองเอาข้อมูลของจริงที่เขาออกแบบและเกิดขึ้นที่ Site งานจริงๆมาโชว์เป็น Sample เป็นรูปที่ AV ถ่ายมาจากของจริงเลยนะคะ...ขอบอก
ผู้จัดการของ TCB ก็อยู่ที่นั่น
ตามตารางข้างล่างนี้นะคะ
Conveyor no : cv 01
Conveyor Title : Primary Crusher Discharge
Material : Crushed ore
Particle Size : 120-230 mm
Bulk Density : 1600 kg/m3 (dry)
Solid S.G : 2.9 Ton/m3
Corrosiveness : Mild
เอาแค่นี้พอหอมปากหอมคอก่อนที่จริงข้อมูลมีมากกว่านี้เป็นกะตั๊ก แต่ประเด็นสำคัญที่ AV อยากจะขอยกมาเป็นตุ๊กตาประกอบการเขียนเรื่อง Impact Bed คือขนาดของวัสดุ (Particle Size) จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่าขนาดของวัสดุที่ใหญ่ที่สุดหลังจากผ่านเครื่องย่อยแล้วมีขนาดถึง 230 มม. (67 ปอนด์) ซึ่งถ้าหากระยะตก (drop) ถึงสายพานสูง 3 เมตร (9ฟุต) มันจะก่อให้เกิดพลังงานตกกระทบ (Impact Energy) เท่ากับ 603 ฟุต-ปอนด์ ซึ่งเราจะนำค่านี้มาเลือกชนิดหรือ
ขนาดของ Impact Bed ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานค่ะประเด็นที่กำลังจะบอกแฟนคลับก็คือ เมื่อมีพลังงานตกกระทบที่มากมายถึงเพียงนี้ ถ้าหากวัสดุที่รองรับเป็นเพียงสายพานธรรมดาๆ วัสดุที่มีขนาดใหญ่และความแข็งและความคม (abrasiveness) จะสามารถทำความเสียหาย (damage) แก่สายพานอย่างมากทั้งส่วนที่เป็นผิว (cover) และโครงสร้าง (structure) ภายในของสายพาน คำถามที่จะตามมาก็คือ มีอะไรบ้างล่ะที่จะสามารถช่วยบรรเทาหรือลดความเสียหายต่อสายพานได้บ้าง Impact Bed ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งที่น่าสนใจในกรณีที่การตกกระทบเป็นเรื่องที่ Serious มากๆ ส่วนเราเห็นเป็นปรกติจนชินตากันแล้วก็คือ ณ ตำแหน่งที่เป็นจุดเปลี่ยนทิศทางของวัสดุ (Transfer Point) บริเวณใต้ Chute เขาจะติดตั้ง Impact Roller อยู่ใต้สายพานเพื่อที่จะ Absorb พลังงานต่างๆที่เกิดขึ้นจากการตกกระทบแต่บางครั้งหากวัสดุมีขนาดใหญ่มาก ระยะตกกระทบก็สูงมากทำให้เกิดการติดตั้ง Impact Roller ก็เอาไม่อยู่คือไม่สามารถจะทานทนกับ
IMPACT ROLLER
พลังงานที่มหาศาลนี้ได้เพียงพอ ดังนั้น Impact Bed จะเสนอหน้ามาแทนที่ทันทีในกรณีที่จำเป็นอย่างนี้ค่ะ (หาความรู้เพิ่มเติมได้จาก Belt Conveyor for Bulk Material pp 324-325 CAME 6 EDITION ) การติดตั้ง Impact Bed นอกจากจะช่วยยืดอายุของสายพาน (Conveyor Belt) ให้ยาวนานแล้วยังมีส่วนช่วยอย่างมากในการประคองสายพานให้เดินตรงแนว ( Alignment) ขณะที่มีวัสดุตกกระทบ (ถ้าเป็น Impact Roller สายพานก็มีแนวโน้ม Slide ออกไปด้านข้างขณะที่วัสดุตกกระทบได้ง่ายกว่า) นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถ Seal ช่องว่างต่างๆในบริเวณที่วัสดุตกใต้ Chute เพื่อป้องกันการรั่วไหล (Spillage) ของวัสดุเนื่องจากด้านล่าง ของ Impact bed Support ด้วย Sliding bar ตลอดแนวยางของ Skirt ดังนั้นจึงสามารถติดตั้งให้ช่องว่างระหว่าง Skirt กับสายพานใกล้ชิดและไม่เกิด Sag ของสายพาน การป้องกันฝุ่นและวัสดุตกหล่นจึงทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Impact bed สามารถใช้ทดแทน Impact Roller ที่ตำแหน่งเดียวกันโดยที่ไม่ต้องปรับปรุง (Modify) โครงสร้างของระบบลำเลียงอะไรมากมายด้วยค่ะ
SLIDING BAR ถอดและเปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนได้
อ๋อเกือบลืมบอกแฟนคลับไปค่ะว่า การติดตั้ง Impact Bed นั้นจะก่อนให้เกิดแรงเสียดทานที่มากกว่า Impact Roller นะคะ ดังนั้นก่อนตัดสินใจจะติดตั้ง ก็ขอให้พิจารณาพลังงาน (Power) ที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นด้วยนะค่ะ
สรุปให้ง่ายๆสำหรับการตัดสินใจว่าเมื่อไหร่จะเลือกใช้ Impact Bed คือ
1. “งานหนักยกให้เขา (Impact Bed ) งานเบายกให้คนอื่น (Impact Idle , Standard Idle)”
2. หากเป็นสายพานลวดสลิง (Steel Cord Belt ) Impact Bed จะช่วยได้มากในการลดความเสียหายภายในสายพาน (Rubber Stress) ในแนวขวาง (Transverse) เนื่องจาก Steel Cord จะไม่มีวัสดุช่วยรับแรงในแนวขวาง เมื่อมีวัสดุก้อนโตๆตกกระทบอาจทำให้ยางไม่สามารถรองรับแรงนี้ได้ เนื่องจากมีค่า Tensile Strength ไม่มากพอ ดังนั้น การฉีกขาดของสายพานตามแนวขวางเป็นจุดๆจะเกิดขึ้นได้ ( Local Failure ) โดยง่าย
3. Impact Bed จะช่วยให้การป้องกันฝุ่น (Fugitive Dust) และวัสดุตกหล่น (Spillage) ได้ดีกว่า Impact Roller เนื่องจาก Skirt Board สามารถติดตั้งให้มีช่องว่างระหว่าง สายพานและ Skirt Board ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ชิด) และช่วยไม่ให้วัสดุติดระหว่าง Skirt Board กับ สายพาน ซึ่งเป็นสาเหตุให้สายพานถูก ขูด-ขีด และเสียหายในแนวยาวได้
ก่อนติดตั้ง IMPACT BED วัสดุล่วงหล่น (SPILLAGE) มากมาย
หลังติดตั้ง IMPACT BED จะ SEAD ช่องว่างระหว่าง SKIRT
และสายพานได้ดีสะอาดขึ้นเยอะเลย
รับใช้แฟนคลับมาแค่นี้ ยังไงๆ ก็ยังคงยังไม่สะใจแน่ แต่ AV อยากจะบอกว่าหากอยากรู้อะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้สามารถ e-mail มาสอบถามกันได้นะคะ หรือหากต้องการ จะซื้อ-หากัน ล่ะก้อ... AV และสายพานไทยยินดีรับใช้และให้บริการอยู่สุดตัวสุดขั้วหัวใจเลยค่ะ... AV ขอจบแค่นี้...ขออนุญาตแฟนคลับไปขุดทองต่อนะคะ
สบายดี...บ่...ๆๆๆๆๆ ...ซำบาย...ดี...ค่ะ ^-^
“...เลือกสายพานไทยไว้ดูและระบบสายพานลำเลียงของท่าน เพราะด้วยอุดมการณ์ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์
และของทีมงาน ท่านจะวางใจได้ว่าระบบของท่านจะไม่สะดุด เพราะสายพานหยุดเดิน...”
หรือติดต่อ.......