วันที่ 12 กรกฎาคม 2551 ในบทความเรื่องกระพ้อ...ร่วง...และการป้องกันที่ AV ได้รับใช้แฟนคลับไปเมื่อเร็วๆนี้ ได้เห็นว่าสาเหตุที่กระพ้อร่วงเพราะ Nut และ Bolt ขาดที่รอยต่อของสายพานซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบ่อยนัก ส่วนมากแล้วจากประสบการณ์ของพี่ๆชาวสายพานไทย จะพบว่าตัวสายพานจะขาดก่อนเสมอ ครั้งนี้จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ AV จึงคิดว่าน่าจะนำเสนอเรื่อง “การต่อสายพาน กระพ้อ” ให้แฟนคลับได้มีความรู้เพิ่มเติมก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจโดยรวมไปด้วย
การต่อหัวสายพานกระพ้อโดยทั่วไปมี 3 วิธีด้วยกันคือ 
วิธีที่ 1 เรียกว่า Lap Joint คือการต่อให้หัวสายพานเกยกัน การต่อหัวแบบนี้จะให้ความแข็งแรงของหัวต่อไม่ดีนัก เหมาะสำหรับต่อหัวไว้ใช้งานชั่วคราว ถ้าหากมีโอกาส หรือมีเวลาเพียงพอ

AV ก็ขอแนะนำให้ทำการต่อตัวด้วยการต่อร้อน (Hot Vulcanization ) จึงจะให้ความแข็งแรงอย่างเต็มที่ อีกข้อหนึ่งที่เป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันว่าจะใช้ระยะทาบ (Lap Length) เท่าไรกันดี ก็ยังไมมีใครฟันธงเสียที เนื่องจากระยะทาบนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าใบรับแรง (Carcass ) และหน้ากว้างของสายพานด้วย แต่อย่างไรก็ตาม AV ใคร่ขอแนะนำว่าระยะทาบควรมีระยะประมาณ 2-4 เท่า ของระยะห่างของตัวกระพ้อ (Bucket Spacing)
ขอเน้นว่าวิธีการต่อแบบ Lap Joint นี้เหมาะสำหรับต่อกับสายพานบางๆ ที่มีแรงดึง (tension) ในสายพานไม่มากนักนะคะ
วิธีที่ 2 เรียกว่า Metallic Clamp หรือวิธีต่อประกับ เช่นเดียวกันว่ายังไม่มีใครหรือกฏเกณฑ์ใดๆ มากำหนดระยะทาบ (Splicing Length)

ของสายพานการต่อโดยวิธีนี้ เหมาะสำหรับสายพานที่บางๆ และมีการใช้งานแทบเบาๆ (Light Duty) ทำได้โดยนำปลายทั้งสองข้างของสายพานมาประกบกัน รัดด้วยเหล็กประกับแล้วขัน Nut และ Bolt ให้แน่น ส่วนสำคัญที่ต้องทำคือ ต้องทำให้เหล็กประกับในช่วงที่เป็นมุมฉากให้มีส่วนโค้ง เพื่อช่วยลด Stress Concentration ของสายที่บริเวณนั้น มิฉะนั้น
สายพานจะขาดตรงนี้ได้ง่าย เช่นเดียวกันกับวิธีที่ 1 หากผู้ใช้งานมีเวลา โอกาสและสถานที่เพียงพอ เมื่อใช้งานสายพานใหม่จนสายพานยึดตัวพอสมควรแล้ว ให้ใช้วิธีการต่อร้อน (Hot Vulcanization) แทนการต่อแบบ Metallic Clamp เพราะถ้านานๆไป Bolt และ Nut ที่ยึดหัวต่ออาจจะเกิดสนิม และขาดได้ง่าย
วิธีที่ 3 เรียกว่าต่อแบบร้อน Hot Vulcanization AV คงไม่ต้องบรรยายเรื่องนี้มากนะคะ เนื่องจาก WEB นี้พูดเรื่องต่อร้อนมามากแล้ว แฟนคลับลองหาอ่านรายละเอียดเอาเองนะคะ แต่ AV อยากสรุปย่อๆง่ายๆว่า วิธีการต่อร้อนนี้ เหมาะสำหรับกระพ้อที่ใช้งานชนิด Heavy Duty ที่มีแรงดึงสูงๆ ดังนั้นการใช้งานจะทนทานมาก ถ้าหากกระพ้ออันไหนที่มีระยะ take up (take up stroke) เพียงพอเมื่อใช้งานสายพานได้ระยะหนึ่งแล้ว จนสายพานยืดตัวบ้างแล้ว ก็ให้เปลี่ยนการต่อจากแบบ Lap Joint หรือแบบ Metallic Clamp มาเป็นแบบ Hot Vulcanization เพื่อให้ความมั่นใจว่าจะได้รอยต่อที่มั่นคงแข็งแรงที่สุดค่ะ
AV หวังว่าข้อมูลในบทความนี้คงพอช่วยให้แฟนคลับตัดสินใจอะไรๆเกี่ยวกับรอยต่อของสายพานกระพ้อได้ง่ายขึ้นนะค่ะ สวัสดีค่ะ
---------------------ขอพลังจงอยู่กับท่าน-------------------