กลางเดือนธันวาคม 2552 ที่ผ่านมาหลายๆส่วนของโลกกำลังให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆส่งผลโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกใบนี้ครับ และเป็นเรื่องที่แต่ละประเทศต้องนำไปขบคิดเพื่อแก้ไขปัญหาโดยปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อมนุษย์ก็คือมลภาวะในด้านต่างๆครับเช่น เสียง กลิ่น แก๊สพิษ ฝุ่น ควัน น้ำเสีย สิ่งเหล่านี้เกิดจากแหล่งอุตสาหกรรมทั้งสิ้นหากจะยกตัวอย่างให้ใกล้ตัวเรามากขึ้นก็ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดครับที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้เพราะมลพิษที่กล่าวมานี่แหละครับ แต่หากพูดถึงระบบสายพานลำเลียงของเรากับมลพิษนั้นคงจะมีอยู่2เรื่องใหญ่ๆคือ 1.ฝุ่น 2.เสียง ครับ เพื่อนๆหลายๆคนคงนึกไม่ออกใช่ไหมครับว่าสายพานลำเลียงจะก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงได้อย่างไร ผมจะพาไปดูกันครับซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วครับและผมกำลังแก้ปัญหาอยู่พอดีครับก็เลยถือโอกาสมาเล่าสู่กันฟัง
เรื่องเสียงกับระบบสายพานลำเลียงนั้นเกิดขึ้นแน่นอนทั้งในขณะที่สายพานวิ่งตัวเปล่าหรือขณะลำเลียงวัสดุ เสียงที่อาจเกิดขึ้นเช่น เสียงจาก Drive Unit, เสียงสายพานเสียดสีกับลูกกลิ้ง ,Loading Point, Discharge point โดยที่ระดับความดังของเสียงในแต่ละจุดก็จะแตกต่างกันครับ แต่จุดที่มีปัญหาด้านเสียงมากที่สุดก็คือที่ Transfer Point ครับ(ตรงที่วัสดุตกกระทบกับผนัง Chute ) และเพื่อให้ผู้อ่านได้จิตนาการออกว่าเสียงที่เราได้ยินนั้นมีความดังระดับใดกันบ้างและมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างไร ผมจึงหาข้อมูล มาให้เปรียบเทียบกันให้ดูครับ
คราวนี้ท่านผู้อ่านที่เคยสัมผัสกับสายพานลำเลียงมาบ้างก็คงจะพอนึกออกใช่ไหมครับว่าแต่ละจุดของสายพานลำเลียงมีเสียงประมาณเท่าใด เช่น เสียงจาก Drive unit ก็ประมาณ 80 dB ครับ (45 kw )
เสียงที่เกิดขึ้นในจุด Transfer Point ซึ่งเป็นจุดที่ก่อให้เกิดเสียงมากที่สุดนั้นย่อมไม่เท่ากันครับโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆดังนี้ครับ
1.ความสูงของวัสดุที่จะตกลงสู่ Chute นั้นหากความสูงระหว่างวัสดุกับ chute มีความสูงมากก็จะทำให้เกิดพลังงานศักย์สูงนั้นก็หมายถึงก่อนที่มันจะกระทบกับพื้นของ chute มันก็จะเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ (kinetic energy) สูงตามไปด้วยครับ
2.ชนิดของวัสดุก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญในการเกิดเสียงครับ ความแข็งและขนาดของวัสดุย่อมก่อให้เกิดเสียงดังที่แตกต่างกันครับวัสดุที่แข็งมากก็จะก่อให้เกิดเสียงที่ดังกว่าวัสดุนุ่มกว่าและขนาดของวัสดุก็เช่นกัน เช่น การขนถ่าย iron ore ย่อมก่อให้เกิดเสียงที่ดังกว่า lime stone ครับแต่ถ้าหากเป็นวัสดุชนิดเดียวกันแล้ววัสดุที่มีขนาดใหญ่กว่าย่อมก่อให้เกิดเสียงที่ดังกว่าครับ( F=ma,m มากแรงก็มากตามไปด้วยครับ)
3.ความเร็วในการลำเลียงวัสดุครับหากความเร็วในการลำเลียงมีความเร็วสูงแรงที่ส่งวัสดุเข้าไปปะทะกับผนัง Chute ก็สูงตามไปด้วยครับเสียงก็ย่อมดังเป็นเรื่องธรรมดาใช่ใหมครับ
ผมขอยกตัวอย่างสายพานลำเลียงที่มีปัญหาเรื่องเสียงบริเวณ Transfer point ให้ดูกันครับโดยสายพานลำเลียง Iine นี้ลำเลียงวัสดุเป็นแร่เหล็ก ,lime stone, และถ่านโค๊กสลับกันครับแต่วัสดุที่ลำเลียงแล้วก่อให้เกิดปัญหาเรื่องเสียงมากที่สุดก็คือ แร่เหล็ก (แข็งและหนัก)หากเราดูจากรูปจะเห็น chute ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปขากางเกงโดยความสูงระหว่างจุด discharging และ Receiving ประมาณ 4.5เมตรหากมีการลำเลียงวัสดุซึ่งเป็นแร่เหล็กก็จะก่อให้เกิดเสียงดังประมาณ125เดซิเบลซึ่งผมวัดมากับมือเลยครับ(ดังเหมือนนำค้อนมาเคาะกับเหล็กถี่ๆเลย)ความดังขนาดนี้จะทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อชาวบ้านบริเวณรอบๆโรงงานได้ครับความดังของเสียงหากวัดจากจุดกำเนิดคือบริเวณโรงงานถึงหมู่บ้านระยะทางประมาณ1กิโลเมตรจะวัดความดังของเสียงได้ประมาณ60เดซิเบลครับ(ประมาณเสียงคนคุยกันดังๆครับ)ดังนั้นเพื่อป้องกันความเดือดร้อนของผู้คนที่อยู่รอบข้างจึงต้องหามาตรการแก้ไขด่วนเลยครับโดยในขั้นต้นใช้ใยแก้วหุ้มที่ตัว chute ดังรูปครับปรากฏว่าผลที่ออกมาไม่สามารถช่วยลดเสียงได้ในระดับที่น่าพอใจเลย(ความรู้สึกก่อนหุ้มและหลังหุ้มไม่แตกต่างกันครับ)จึงต้องใช้มาตรการที่สองโดยคราวนี้ตีผนังหุ้ม( Insulation )มันทั้ง station เลยครับซึ่งก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุใช่ไหมครับเสียงก็จะดังก้องอยู่ภายในห้องครับทำให้ผู้ปฎิบัติงานไม่สามารถทำงานในห้องนั้นได้เพราะเสียงดังมากครับสุดท้ายทางสายพานไทยเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ครับ ทาง TCB ได้แนะนำไปว่าการลดเสียงที่ดีนั้นต้องทำการหุ้มยาง lining ที่ผนัง Chute ครับโดยคุณสมบัติของยาง lining ที่ดีนั้นจะต้อง ทนสึก( abrasion ) มีการกระเด้งตัวที่ดี( resiliance70% ) มีความนุ่ม(35-45 shore A )จะสามารถลดเสียงได้( reduce noise )ดีจากคุณสมบัติข้างต้นจึงทำให้ตัวยางต้องมีความนิ่มด้วยเพื่อช่วยในการดูดซับแรงใช่ไหมครับ(ลดพลังงานตกกระทบ) โดยคุณสมบัติทั้งหมดนี้จะมีอยู่ใน REMA LINE หรือเทียบเท่า ครับ แต่ในภาวะที่จะต้องสยบความเดือดร้อนโดยฉับพลันซึ่งไม่สามารถจะรอสิ่งที่ดีที่สุดได้ดังนั้นจึงต้องใช้ยางที่ทาง TCB มีอยู่ใน stock ครับซึ่งมีคุณสมบัติพอทดแทนกันได้ในบางส่วนก็คือยาง REMA GRIP (ไม่นุ่มมาก60 Shore A,Resilience 45% )ครับ ดังนั้น TCB ได้ดำเนินการติดตั้งเพื่อระงับปัญหาดังกล่าวให้ได้โดยเร็วหลังจากที่ทำการ lining ผนัง chute ไปบางส่วนผลจากการทดสอบระดับเสียงลดลงจาก125เดซิเบลเหลือประมาณ80เดซิเบลครับ(คุยกันได้ยินและรู้เรื่องครับ)ก็ลดเสียง ณ จุดเดียวกันไปได้36เปอร์เซ็นเลยทีเดียวก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจและคาดว่าหากใช้ยาง REMA LINE ในการ Lining ก็จะสามารถลดเสียงได้ดีกว่านี้แน่นอนครับ และหากมีผลการทดสอบของยาง REMA LINE ก็จะนำกลับมาเล่าให้ฟังกันอีกครับ
หลังจากทีทาง TCB ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเสียงเกิดจากการที่วัสดุกระทบ Chute บริเวณช่วง Hopper, chute ขาสั้นและ chute ขายาว จึงได้แก้ปัญหาคือทำ Lining Chute ในบริเวณที่วัสดุตกกระทบครับ
ลักษณะของวัสดุตกลงสู่ chute
“...เลือกสายพานไทยไว้ดูและระบบสายพานลำเลียงของท่าน เพราะด้วยอุดมการณ์ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์
และของทีมงาน ท่านจะวางใจได้ว่าระบบของท่านจะไม่สะดุด เพราะสายพานหยุดเดิน... ”
หรือติดต่อ.......