การวัดตัดหัวสายพาน
1.ก่อนที่จะทำมุมเฉลียงของสายพาน จะต้องจับฉาก 90° พร้อมขีดเส้นที่ปลายสายพาน
2.ทำการวัดมุมเฉลียง มุมเอียงอยู่ที่ประมาณ16° การคำนวณ BW x 0.3 =…..? เช่น 800 x 0.3= 240 mm. ที่สำคัญก่อนทำการตัดควรดูก่อนด้วนว่า
มุมของเครื่องต่อสายพานเป็นมุมทางไหน ซ้าย ขวา เพราะเครื่องต่อสายพานแต่ละยี่ห้ออาจมีมุมที่แตกต่างกัน
การวัดตัดหัวสายพาน
ก่อนที่จะทำมุมเฉลียงของสายพาน จะต้องจับมุมฉาก 90° ที่ปลายสายพาน
ทุกครั้ง มุมเฉลียงของสายพานที่จะตัดอยู่ที่ประมาณ 16° วิธีการคำนวณ
ทำได้ดังนี้ “หน้ากว้าง(BW) ) x 0.3 =……?” หรือตัวอย่างเช่น
800 x 0.3 = 240 mm. และที่สำคัญ ก่อนการตัดมุมควรดูก่อนว่า มุม
ของเครื่องต่อสายพานเป็นมุมทางไหน ซ้าย หรือ ขวา เพราะเครื่องต่อ
สายพานของแต่ละยี่ห้ออาจมีมุมที่แตกต่างกัน
การวัด Step length
ก่อนการวัด Step length ทุกครั้ง เราจะต้องดูจำนวนชั้นผ้าใบ
ของสายพานก่อนว่ามีจำนวนชั้นผ้าใบกี่ชั้น จากนั้นมาดูค่า EP ของสายพาน
เมื่อรู้จำนวนชั้นผ้าใบและค่า EP แล้ว ให้ดูตารางการเปิดสายพานที่มีอยู่ บางครั้งอาจจะต้องใช้ดุลยพินิจ
พิจารณาจากการใช้งานหรือสอบถามความต้องการจากลูกค้าก็ได้
ทิศทางการวิ่ง
การต่อสายพานทุกครั้งเราจะต้องดูทิศทางการวิ่งของสายพานว่าวิ่งไป
ทางไหน เพราะว่าการต่อสายพานผ้าใบการประกบหัวสายพานนั้น
หัวนำจะต้องอยู่ด้านบน หัวตามจะต้องอยู่ด้านล่าง ถ้าสลับกันจะเป็นการ
ต่อแบบย้อนลูกศร จะทำให้รอยต่อเมื่อสะดุดกับอะไรก็ตาม รอยต่อจะเปิดได้ง่าย ซึ่งอันตรายมาก
การเตรียมหน้างาน
การต่อสายพานทุกครั้ง จะต้องเตรียมพื้นที่งานเพื่อให้มีความสะดวกต่อ
การทำงานให้มากที่สุด เช่น อาจจะต้องถอดเฟรมลูกกลิ้งออกเป็นบางส่วน
เพื่อที่จะนำเครื่องต่อสายพานเข้ามาจัดเรียง และในส่วนที่จะทำการยึดหัวสายพานทั้งสองหัว
การดึงตึงและ ยึดหัวสายพาน
ก่อนการดึงตึงหัวสายพาน เราจะต้องยึดหัวสายพานไว้ข้างหนึ่งก่อน ตามหลัก
จะต้องยึดหัวสายพานด้านนำก่อน เพื่อที่จะได้ดึงสายพานได้ง่าย เพราะเป็นการ
ดึงสายพานตามทิศทางการวิ่งของสายพาน ควรดึงสายพานให้ตึงที่สุด แล้วทำ
การยึดหัวสายพานด้านตาม เสร็จแล้วนำไม้อัดมาปูทับลงบนเครื่องต่อสายพาน
สำหรับรองตัดและเปิดหัวสายพาน
การเตรียมหัวสายพาน
หลังจากยึดหัวสายพานและปูไม้อัดเรียบร้อยแล้ว ทำการวัดตัดมุมหัวสายพาน
และวัด Step length ที่หัวใดหัวหนึ่งก่อน เมื่อได้แล้วนำลงมาทาบกับหัว
สายพานอีกด้านหนึ่งเพื่อทำการมาร์คจุด Step length ก่อนทำการเปิดหัว
สายพานทั้งสองด้าน
ตัดให้ตรงเส้นนะครับ การวัด Step length
ปาด Slope เพื่ิอเอาหน้ายางออก
การเปิดหัวสายพาน
ควรเปิดหัวสายพานพร้อมกันทั้งสองหัว เพื่อให้งานเร็วขึ้น
สำหรับหัวสายพานด้านนำเปิดยางด้านล่าง(bottom)ออก ส่วนหัวสายพานด้านตามเปิดยางด้านบน(top)ออก
สำหรับหัวสายพานด้านตามให้พลิกหัวสายพานเพื่อทำการเปิดยางตรงปลายสายพานออกก่อน ตามที่เห็นในรูปภาพ
สำหรับการต่อสายพานแบบ ต่อเย็น เมื่อปาดยางออกแล้ว นำมีดมาเฉือนยางตรงรอย Slope ออกอีกครั้งเพื่อง่ายต่อการขัดแต่ง
ทำพร้อมกันงานเสร็จเร็ว !! สุดยอด...ยอดเยี่ยมมาก !!
ขัดแต่งด้วยความระมัดระวัง
เมื่อเปิดชั้นผ้าใบออกหมดแล้ว ถ้าเป็นสายพานชนิดมีขอบ(mold edge)จะเหลือขอบยางทั้งสองข้าง ต้องปาดออกโดยอย่าให้มีรอยเว้าแหว่ง
จะต้องปาดให้เสมอกับชั้นผ้าใบมากที่สุด (สำหรับการต่อแบบต่อร้อนถ้าเว้าแหว่งยังทำการเสริมยางดิบให้เต็มได้) จากนั้นทำการขัดแต่ง เน้นให้ขัด
เฉพาะส่วนที่เป็นยาง ชั้นผ้าใบไม่ควรขัด แต่หากชั้นผ้าใบมียางติดอยู่ ก็ขัดเฉพาะยางที่ติดออกเท่านั้น
การจัด Center line
หลังจากเปิดหัวและทำการขัดแต่งเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็เป็นการเอาหัวสายพานมาทาบกันเพื่อจัด Center line และ Step length
ให้ได้ระยะ เสร็จแล้ว ให้นำอุปกรณ์มายึดเพื่อไม่ให้ระยะของ Center และStep length เคลื่อน เสร็จแล้วพลิกสายพานด้านบนให้หงายขึ้น
เพื่อเตรียมทำในขั้นถัดไป
การประกบปิดรอยต่อ
เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ก็มาถึงการที่จะประกบปิดรอยต่อกันแล้วอันดับแรก จะต้องเตรียมวัสดุที่จะใช้สำหรับต่อสายพานแบบต่อร้อน
ไว้ให้พร้อม เช่น น้ำยาล้าง,กาว Heating solution, Intermediate rubber, Uncured cover rubber,แปรงทากาว เป็นต้น
เมื่อพร้อม เริ่มด้วยการทำความสะอาดหัวสายพานทั้งสองหัวด้วยน้ำยาล้าง ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง หรือจะใช้เครื่องเป่าร้อนเป่าให้แห้งก็ได้ ขั้นต่อไป
ให้พลิกปลายสายพานด้านหัวตาม ขึ้นมาเพื่อทำการติดยางปิดหัวรอยต่อก่อน แล้วปล่อยกลับที่เดิม
ก่อนปิดหัวจะต้องจัด Center line ก่อน
จากนั้นให้เอาหัวสายพานด้านบนลงมาทาบเพื่อมาร์ครอย Slopeของยางที่หัวสายพานลงไปที่ยางดิบทั้งสองข้าง(ควรมาร์คเผื่อออกไปประมาณครึ่ง
หนึ่งของรอย Slope) เสร็จแล้วพลิกหัวสายพานด้านบนกลับออกไป ทำการตีเส้นตามที่ได้มาร์คไว้และทำการปาดSlope ยางส่วนเกินออก
จากนั้นทำความสะอาดหัวสายพานทั้งสองด้านรอให้แห้ง นำยาง Intermediate มาทาบที่หัวสายพานด้านตามพร้อมทำการตัดยาง ให้เผื่อออก
จากขอบสายพานประมาณ 3-5 ซม. นำออกไปเตรียมไว้ เริ่มทำการทากาวชั้นแรกทั้งสองหัวรอให้แห้งสนิท จากนั้นทำการทากาวชั้นที่สองลงที่หัว
สายพานด้านตามและที่ยาง Intermediate ให้ทั่ว รอให้แห้งพอหมาด เช็คได้ด้วยการใช้หลังมือแตะถ้าไม่เหนียวติดหลังมือขึ้นมาแสดงว่า
ใช้ได้(อย่าปล่อยให้แห้งจนเกินไป) เมื่อได้ที่แล้วนำยางมาทาบปิดลงไปที่หัวสายพานแล้วดึงแผ่น พลาสติกออก จากนั้นทำการไล่อากาศออกด้วยการ
ใช้ลูกกลิ้งหนามกลิ้งให้ทั่ว เสร็จแล้วตัดยางส่วนเกินออกให้หมด แล้วนำยาง Cover มาตัดให้เป็นแถบกว้างประมาณ3 ซม. นำมาติดที่ขอบ
สายพานทั้งสองข้างเพื่อเพิ่มความหนา เพราะบางครั้งเราอาจจะปาดขอบสายพานต่ำเกินไป จากนั้นทากาวชั้นที่สองลงบนหัวสายพานด้านหัวนำ
และที่ที่หัวตามที่ติดยาง Intermediate ไว้แล้วทิ้งไว้ให้แห้งพอหมาดๆ เมื่อได้ที่แล้วให้ทาบหัวสายพานลงมาประกบกัน ต้องดูด้วยว่ายางปิดรอย
Slope เต็มหรือไม่ หากไม่เต็มจะได้เสริมให้เต็ม เมื่อประกบหัวสายพานลงแล้ว ให้ใช้ค้อนยางทุบเพื่อไล่อากาศออก โดยทุบจากตรงกลางออกด้าน
ข้างให้ทั่วทั้งรอยต่อสายพาน
ทาให้ทั่วๆนะครับ..... เ็ล็งดูดีๆนะ..ตรวจสอบให้ดีอีกครั้ง
ทาทาทา..ให้ทั่วๆกัน !! รับรองตรงแน่นแน่
เมื่อประกบหัวสายพานลงแล้ว ให้ใช้ค้อนยางทุบเพื่อไล่อากาศออก โดยทุบจากตรงกลางออกด้านข้างให้ทั่วทั้งรอยต่อสายพาน
เมื่อประกบหัวสายพานและไล่อากาศแล้ว ก็จะเห็นร่อง Slope ด้านบนทำความสะอาดให้ทั่ว เตรียมยางดิบสำหรับปิดร่อง Slope ทำการทากาว
ที่ร่องสองชั้น และที่ยางหนึ่งชั้น ทิ้งไว้ให้แห้งพอหมาดๆ เมื่อได้ที่ นำยางปิดลงที่ร่อง Slope ให้ยางดิบมีความหนากว่ายางของสายพาน
ประมาณ1 mm. เสร็จแล้วปาดยางส่วนเกินออกให้หมด ตัดแต่งขอบรอยต่อให้เรียบร้อย เพื่อดำเนินการ Heat ต่อไป
เมื่อประกบหัวสายพานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการประกอบเครื่องต่อสายพานเข้าไปที่รอยต่อสายพานอันดับแรกจะต้องจัดเรียง
เครื่องต่อชุดล่างให้รอยต่อสายพานอยู่ตรงกลางของแผ่น Heater ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และจัดเรียงบาร์ให้ได้ระยะไม่ชิด ไม่ห่างกันจนเกินไป
จากนั้นนำผ้ารอง Heat มาปูรองด้านล่างและปูทับด้านบน จัดดึงผ้าให้เรียบที่สุด นำไกด์ข้างมาใส่ที่ขอบรอยต่อทั้งสองข้าง ไกด์ข้างที่ดีนั้นจะต้อง
มีความหนาน้อยกว่าสายพานประมาณ 1-2 mm. เมื่อใส่ไกด์ข้างแล้วให้รั้งไกด์ทั้งสองข้างด้วยอุปกรณ์ช่วยดึง หากพื้นที่ของแผ่น Heater ยัง
เหลืออีกมากให้นำแผ่นยางสายพานมาเสริมให้เต็ม เพื่อป้องกันแผ่น Heater คดงอ เมื่อเสร็จแล้วประกอบเครื่องต่อชุดบนเข้าไป ขัน Bolt ให้ตึง
เสมอกัน ประกอบชุดควบคุม (ตู้ Control) และชุดให้แรงดัน (Pressure) เข้าให้ครบทั้งหมด ในส่วนของแผ่น Heater กับสายไฟเข้าตู้จะ
ต้องเช็คทุกครั้งว่าตำแหน่งขั้วที่สายกับขั้วที่แผ่นนั้นตรงกันหรือไม่และแผ่น Heater ยังใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ก่อนที่จะจ่ายไฟเพื่อทำการ Heat ต่อไป
ประกอบเครื่องพร้อม Heat เอาให้ชัวร์จดบันทึกด้วย
ขั้นตอนการ Heat
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็มาถึงขบวนการในการ Heat กันแล้ว อันดับแรกเป็นการให้แรงดัน (Pressure) การให้แรง
ดันตามหลักการแล้ว เบื้องต้นต้องให้แรงดันที่ 100 psi ก่อนจึงจ่ายไฟเพื่อทำความร้อน จนอุณหะภูมิขึ้นถึง 110°c ซึ่งถึงณ.จุดนี้ยางดิบจะ
ละลายจนเหลวทำให้ง่ายต่อการแทรกซึมเข้าไปในเนื้อผ้าใบ ซึ่งจะทำให้การยึดเกาะดีขึ้น หลังจากนั้นให้เพิ่มแรงดันเพิ่มไปที่ 150 psi
จากนั้นรอให้ความร้อนขึ้นจนถึง150°c ทั้งแผ่นล่างและแผ่นบนก่อนเราจึงจะเริ่มทำการจับเวลา(Curing time)โดยเอาความหนาของสายพาน
คูณกับเวลาmm. x 3 =…. เช่นสายพานหนา 15 mm.ก็เท่ากับเอา15 x 3 = 45 นาที ในขณะที่จับเวลาอยู่นั้นจะต้องคอยตรวจ
ดูความดันอย่าให้มันลดลง ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้รอยต่อออกมาไม่ดี อาจจะมีฟองอากาศอยู่ภายใน เมื่อครบเวลาตามที่กำหนดแล้ว ให้ทำการตัดไฟ
ที่ส่งเข้าไปทำความร้อนทันที (จดบันทึกรายละเอียดการ Heat ไว้ด้วยทุกครั้ง) และปล่อยให้ Heater เย็นลงจนถึงประมาณ 60°c จึง
ถอดอุปกรณ์พ่วงพร้อมกับเครื่องต่อชุดบนออก ดึงผ้าปิดรอยต่อด้านบนออก เช็คดูรอยต่อว่าสมบูรณ์เรียบร้อยดีหรือไม่ หากพบว่ามีจุดบกพร่องให้
ทำการแก้ไขทันที เมื่อสมบูรณ์ดีแล้ว จัดการปาดแต่งขอบสายพานให้เรียบร้อย ถอดเครื่องต่อชุดล่างออก ประกอบอุปกรณ์ของสายพานที่ถอดออก
ให้เข้าที่ ทำความสะอาดพื้นที่ที่ทำงานให้ดูดีและอย่าลืมส่งมอบงานด้วย
ขัดแต่งเพื่อความเรียบร้อย ประกอบชิ้นงานก่อนส่งมอบงาน
“...เลือกสายพานไทยไว้ดูและระบบสายพานลำเลียงของท่าน เพราะด้วยอุดมการณ์ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์
และของทีมงาน ท่านจะวางใจได้ว่าระบบของท่านจะไม่สะดุด เพราะสายพานหยุดเดิน...”
หรือติดต่อ.......