ภาพที่ 3                                                                              ภาพที่ 4

ทีมงานของสายพานไทยได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของ S-Belt ที่หน้างานพบข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

และได้ให้คำแนะนำเพื่อแก้ไขดังนี้ 

ภาพที่ 5

ข้อเท็จจริงที่ปรากกฎ :

 1) พื้นที่บริเวณ line ของ S-Belt ใช้ลำเลียงวัสดุคล้ายๆ ปูนขาวขนาดเป็นผงถึงก้อนขนาด    10 ซม. พบว่ามีวัสดุร่วงหล่นอยู่บนพื้นกองเป็นภูเขาย่อมๆ ทำให้เกิดการขูดลากและเสียดสีกับ sidewall หลุดฉีกขาดและบางครั้งก็ต้องหยุดเครื่องจักรเพราะ Sidewall ติดอยู่กับกองวัสดุเครื่องไม่มีแรงเพียงพอที่จะฉุดลากต้องเสียเวลาในการกำจัดวัสดุออกเสียก่อนจึงจะสามารถเดินเครื่องได้อีกครั้งหนึ่ง                            

 2) โรงงานมีฝุ่นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากวัสดุที่หล่นตามพื้นตามข้อที่ 1 มีสภาพแห้งก็จะกลายเป็นฝุ่นฟุ้งทำให้สิ่งแวดล้อมเลวร้าย 

 3) วัสดุที่หล่นออกมาจาก sidewall ส่วนหนึ่งก็จะหล่นลงพื้นบางส่วนก็จะไปติดขัดอยู่ตาม Head drive และ Guide drive ของ S-Belt ทำให้ S-Belt เดินไม่ตรง line          

 4) Bare-belt ของ S-Conveyor ทำประเทศไทยเป็นสายพานชนิดไม่มี Fabrice reinforcement ทำให้ S-Belt แอ่นตัวได้ง่าย

 5) Sidewall ติดอยู่กับ Bare belt ด้วยวิธีการติดแบบเย็น (Cold Vulcanization) 

6) Sidewall ที่นำมาถูกตัดเป็นแถบ (strip) เล็กๆ ยาวประมาณท่อนละ 1 เมตร แล้วนำมาต่อกันตลอดความยาวด้วยกระบวนการต่อเย็น (Cold Vulcanization) ซึ่งทำให้ตลอดความยาวของ S-Belt มีรอนต่อ ซึ่งเป็นจุดอ่อนอยู่มากมาย

 7) side wall ไม่มีชั้นผ้าใบ (fabric) เสริมความแข็งแรงทำให้ฉีกขาดได้ง่าย

 8) Cleats ยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้

การแก้ไข (Corrective Action) เบื้องต้นเพื่อให้ใช้งานได้ดังนี้

1. ติด Sidewall ที่หลุดจาก Base belt โดยทำความสะอาดที่ฐานของ Sidewall และที่ผิวหน้าของ Base belt แล้วตัดเข้าด้วยกันด้วยงิธีของ Vulcanization

 2. รอยต่อระหว่าง Sidewall กับ sidewall ได้ทำความสะอาดผิวหน้าทั้ง 2 ข้างของ sidewall แล้วติดเข้าด้วยกันด้วยวิธี Cold vulcanization พร้อมเสริมความแข็งแรงด้วย Nut และ Bolt อย่างที่เห็นในรูปที่ 4 นี่แหละ

3. เมื่อทำตามข้อ 2 แล้วเสร็จ รอสัก 5-6 ชั่วโมง ให้กาวแห้งและแข็งแรงพอรับน้ำหนักได้ก็สามารถสตาร์ทเครื่องเริ่มทำงานได้ ก็สามารถสตาร์ทเครื่องเริ่มทำงาน

การแก้ปัญหาอย่างถาวร (Preventive action)

Base Belt  : คือสายพานที่เป็นสายพานอยู่ในแนวหลักควรใช้เป็นสายพานชนิดทีเป็นชั้นผ้าใบพิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้สายพานอยู่ในแนวตรงเสมอ ไม่แอ่น (Sag) หรือกระพือ (Bowing) ที่โรงงานนี้ใช้สายพานที่ผลิตในประเทศไทยที่ไม่ได้เสริมชั้นผ้าใบพิเศษ      (Cross-rigid-Belt) อาจจะให้สายพานแอ่นได้ สายพานชนิดพิเศษนี้ออกจากทำหน้าที่ทำให้สายพานวิ่งอยู่ในแนวตรงแล้ว ยังช่วยป้องกันความเสียหายของชั้นผ้าใบรับแรงไม่ให้ฉีกขาดเนื่องจาก impact load ได้ด้วย

  เปรียบเทียบ Base Belt ที่มี Cross-rigid Ply กับไม่มี Cross-rigid Ply

Sidewall : ควรใช้ Sidewall ที่มีชั้นผ้าใบ (fabric) เสริมความแข็งแรงเป็นเส้นเดียวกันตลอดทั้งความยาว เพื่อลดจุดอ่อนให้มีจุดให้มีจุดอ่อนน้อยที่สุด กรณีนี้พบว่า Sidewall ถูกต้องออกเป็นส่วนๆ ทุกๆ 1 เมตร ทำให้มีรอยต่อมากมาย ควรหลีกเลี่ยงการใช้/ซื้อ Sidewall ชนิดนี้

Cleat :ไม่พบว่ามีปัญหาแต่อย่างใด

ปัญหาเกี่ยวกับการผลิต Base-Belt-Sidewall และ cleat

 พบว่าในการผลิตในประเทศไทยได้ผลิต Base-Belt , sidewall และ cleat เป็นส่วนๆ แล้วนำมาต่อกันด้วย Cold process ซึ่งมีจุดอ่อนหลายจุดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้นในการซื้อครั้งต่อไปควรสั่งให้กับโรงงานสำเร็จรูป โดยการติดชิ้นส่วนทั้งหมดมาจากโรงงานโดยวิธี Hot Vulcanization ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ความแข็งแรงของการต่อเชื่อมมากที่สุด

ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแความสะอาด

 เรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัที่ทุกโรงงานส่วนมากจะละเลยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าไม่รักษาความสะอาดแล้วจะมีปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับระบบลำเลียงมากมาย ลองหาอ่านลายละเอียดเพิมเติมจาก www.thaiconveyorbelt.com ตัวอย่าง S-Belt ตังนี้ไม่สามารถทำงานต่อไปได้เพระ side wallไปขูดหรือเสียดสีกับ กองวัสดุที่พื้นจนทำให้มีความฝืดหรือความต้านทานสูงมาก จนมอเตอร์ไม่สามารถจะฉุดสายพานให้หมุนได้ทำให้ต้องหยุดการผลิต นอกจากนี้ปัญหาขอบข้างนอกสายพานฉีกขาดสายพานเดินไม่ตรงแนวล้วนแต่เกิดจากสาเหตุการไม่รักษาความสะอาดท้งนั้น ดังนั้นสายพานไทยจึงขอแนะนำให้ท่านทำความสะอาดระบบสายพานลำเลียงของท่านให้ดี แล้วท่านจะพงว่าปัญหา 80 % ที่ประสบอยู่ปัจจุบันจะหายไป

ข้อแนะนำ

          ท่านสามารถซื้อ S-Belt ที่ติด Base-Belt, sidewall และCleat โดย Hot process จากโรงงาน โดย Base-belt , Cross-Rigid-ply เพิ่มความแข็งแรงและ sidewall มี fabric เพิ่มความแข็งแรงในราคา "ไม่แพง" โดยสายพานไทยนำเข้ามาใช้เวลาสั่งของไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น ราคา "สมเหตุสมผลจริงๆ" รับรองว่าใกล้เคียงกับผู้ผลิตในประเทศไทยมากๆ