หมอสายพาน (BELT DOCTOR) : SERVICE AROUND CONVEYOR BELT
ตอนที่ 2 ผู้พิทักษ์ความสึกหรอ...ของ Chute
จากเรื่องหมอสายพานตอนที่ 1 เราเริ่มด้วยเรื่องผลดีของการหุ้ม Pulley คราวนี้นายTCB ขอให้ท่านมองกลับไปยังรูป ตรงหมายเลข 2 .....อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ให้ท่านจ้องมองอยู่ที่ตำแหน่งเลข 2 ตำแหน่งนี้ จะเป็นตำแหน่งของ Chute ซึ่งปกติโครงสร้างของ Chute จะทำด้วยเหล็ก เมื่อวัสดุที่ขนมาถึงตำแหน่งสิ้นสุดของสายพานที่หัว Drive (หมายเลข 1) สุดท้ายนี้แล้ว วัสดุก็จะพุ่ง (Trajectory) ออกจากหัว Drive ตกลงสู่ Chute ถ้า Chute ได้รับการออกแบบมาอย่างดีอย่างเหมาะสม
รูปที่ 1.
เป็นต้นว่า ผนังของ Chute เอียงเป็นมุมอย่างพอดิบพอดี ที่ทำให้วัสดุสามารถตกลงบนสายพานด้วยอัตราที่สม่ำเสมอ หรือส่งวัสดุลงบนสายพานด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับความเร็วสายพานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์เพียงพอแล้ว แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว หากมองในแง่การบำรุงรักษาระบบสายพาน ยังมีข้อพิจารณาอื่นๆ ที่ยังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อให้ความคุ้มค่าแก่ระบบลำเลียงโดยรวมอีก ลองพิจารณาข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้เป็นส่วนประกอบด้วย
รูปที่ 2.
ประการแรก วัสดุที่สายพานลำเลียงมานั้น ย่อมมีทั้งก้อนเล็กและก้อนใหญ่ เมื่อวัสดุตกลงบนผนัง chute วัสดุก้อนเล็กย่อมไม่ใคร่สร้างปัญหาอะไรมากนัก แต่หากวัสดุนั้นมีก้อนขนาดใหญ่วันแล้ววันเล่า ผนัง Chute หรือจะทนทาน ยิ่งวัสดุที่ทั้งก้อนใหญ่ หนัก แถมยังแหลมคมซะอีก ผนัง Chute จะเหลืออะไรล่ะครับท่าน นอกจากจะถูกเจาะ ถูกกระแทก ถูกเสียดสี จนทำให้ผนัง Chute บางลง ทะลุ เสียหายและใช้งานๆไม่ๆได้ในที่สุด ผลที่ตามมาก็คือ การสูญเสียผลผลิตเนื่องจากจะต้องหยุดเครื่องซ่อมแซม Chute ให้ใช้การได้ตามปกติเสียก่อน หากท่านเป็นผู้รับผิดชอบต่อการบำรุงรักษาระบบสายพานลำเลียง ท่านจะป้องกันปัญหานี้ หรือช่วยบรรเทาความเสียหายต่อการผลิตให้น้อยที่สุดได้อย่างไร ?!?
ถ้ายังคิดไม่ออก นาย TCB ขอแนะนำให้ท่านทำการบุผนัง (Lining) ดูตัวชี้เลข 16 และ 2 ของ Chute
รูปที่ 3.
ด้วยยาง หรือ ceramic หรือพลาสติก ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานของท่านตัวอย่าง เช่น ใช้ยางที่มีคุณสมบัติป้องกันการเสียดสีเพื่อลดพลังงานที่ตกกระทบผนัง Chute ( เนื่องจากก้อนวัสดุที่มีขนาดใหญ่และมีความเร็วสูง ย่อมมีพลังงาน (kinetic energy) ที่มีอานุภาพในการทำความเสียหายให้แก่ผนัง Chute ได้สูงมาก ) การเลือกประเภทของวัสดุบุผนัง อาจจะมีรูปแบบ (Pattern)ที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมกับสภาพการของความเสียหาย แต่จุดประสงค์หลักของ วัสดุบุผนังเหล่านี้ ก็เพื่อจะดูดซับพลังงานจากการตกกระทบของวัสดุที่มีขนาดใหญ่ ให้เหลือน้อยลง และช่วยป้องกันไม่ให้ผนัง Chute เสียหายเนื่องจากถูกกระทบกับวัสดุโดยตรง หากท่านเลือกรูปแบบและชนิดของยางบุผนัง Chute ที่ถูกต้อง ท่านก็สามารถยืดอายุการใช้งานของผนัง Chute ลดการบำรุงรักษา ลด Downtime ตลอดจนลดเสียงรบกวนอันเกิดจากเสียงวัสดุตกกระทบกับผนังเหล็ก เป็นการช่วยรักษาสุขภาพหูให้ดี เพื่อคอยรับคำชมของเจ้านาย พร้อมทั้งช่วยยืดชีวิตของท่านให้ยืนนาน (เพราะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น) นอกจากนี้ยังไม่ต้องทะเลาะ(ที่จริงถูกขู่ต่างหาก) กับฝ่ายผลิต เพราะยังคงสามารถดำเนินการผลิตได้ตามตารางเวลาอีกด้วย แน่นอนค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้จะทีค่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเงินลงทุนทั้งระบบ และความเสียหายที่ต้องหยุดเดินเครื่อง ที่ไม่ได้อยู่ในแผนการบำรุงรักษา
Belt Tip : การที่วัสดุแหลมคม ก้อนใหญ่ๆ ตกลงมาจากที่สูงๆ ยอมมีพลังจลน์ (kinetic energy)สูงมาก สูงจนกระทั่งหาก ตกกระทบบนสายพานโดยตรง สายพานอาจถึงกับฉีกขาด ทะลุได้ ดังนั้นการติดตั้งวัสดุกัน
กระแทกที่ผนัง chute เป็นเพียงวิธีการหนึ่งที่จะลดความเสียหายของ chute และสายพานเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่จะป้องกันไม่ให้สายพานเสียหาย เช่น การเสริม Impact bar หรือ การใช้ Impact Roller แบบพิเศษที่ สามารถลดพลังงานการตกกระทบของวัสดุ ซึ่งนาย TBC จะได้เรียนนำเสนอให้ท่านผู้รักสายพานได้ทัศนาในหมอสายพานตอนต่อๆไป
เวลาขณะนี้ 14:25 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2550 นาย TCB ขออนุญาติไปทานข้าวเที่ยงก่อน มีโอกาสจะได้มารับใช้ท่านผู้รักสายพานในตอนที่ 3 ต่อไปครับ หากท่านใดจะร่วมส่งบทความ หรือความรู้มาให้ นายTCB ช่วยเผยแพร่ ติดต่อมาตามที่ช่องทางการติดต่อด้านล่างได้เลยครับ ทาง TCB ยินดีรับใช้เป็นอย่างยิ่งครับ
“...เลือกสายพานไทยไว้ดูและระบบสายพานลำเลียงของท่าน เพราะด้วยอุดมการณ์ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์
และของทีมงาน ท่านจะวางใจได้ว่าระบบของท่านจะไม่สะดุด เพราะสายพานหยุดเดิน...”