การเลือกความหนาสายพานอย่างมีมีกึ๋น
ตารางการเลือก Top Cover โดยทั่วไป
เมื่อเราจะเลือกความหนาของผิวยางบน (Top Cover) ก็สามารถใช้ความพยายามเพียงน้อยนิด ดูรายละเอียดจากตารางข้างบนก็สามารถเลือกความหนาได้ถูกต้อง ดีพอสมควร นั่นคือการเลือกความหนาของผิวยางบนใบกรณีทั่ว ๆ ไป แต่ในบางครั้งเราได้รับคำแนะนำว่า ถ้ากรณีสายพานเป็น Feeder belt หรือเป็นสายพานที่มีช่วงสั้น ๆ ให้เลือกความหนาเพิ่มอีก 1 สเต็ปแต่ก็ยังแต่ก็ยังไม่มีใครบอกเราว่า ระยะช่วงสั้น ๆ ที่ว่านั้น มันยาวเท่าไหร่กันแน่ ก็เลยทำให้แฟนคลับของ AV เป็นงง ก็จำเป็นต้องเดา ๆ กันไป ถูกมั้ง ผิดมั้ง เอาหลักการอะไรแน่นอนไม่ได้ หรือไม่ต้องให้เสียเวลา เอาหนาเข้าไว้ อย่างงี้ก็เปลืองตังค์แย่เลย
วันนี้ AV เลยจะขอนำเสนอเรื่องนี้ ให้แฟนคลับได้เข้าใจ จะ จะ เจ๋ง ๆ มีตัวเลขให้อ้างอิงกันชัดเจน แจ่มแจ้งแดงแจ๋กันไปเลยเริ่มต้นกันด้วยเรื่อง frequency factor นะคะ
Ft= frequency factor หมายถึงเวลา เป็นนาทีที่สายพานวิ่งครบรอบ ซึ่งสามารถหาได้จากสูตรนี้ นะคะ
Ft= 2L
V
L= ระยะ Center-to Center ของความยาวของสายพานมีหน่วยเป็นฟุต,Ft
V= ความเร็วของสายพาน มีหน่วยเป็น ฟุตต่อนาที,fpm
จับสองตัวมาหารกันเพื่อหาว่า Ft แล้วให้พิจารณาดังนี้
ค่า Ft > 4.0 ให้ใช้ค่า Minimum Cover ได้
ค่า Ft 0.2-4.0 ให้เพิ่มค่า ความหนาของ Cover ตามสัดส่วนความเหมาะสม
ค่า Ft 0.2 ให้เพิ่มค่าความหนาเป็น 2 เท่า ของ minimum Cover
จะเห็นว่ายิ่งค่า Ft มีค่าน้อยเท่าไหร่ แสดงว่า สายพานเส้นนั้นสั้นมาก หรือ สายพานเส้นนั้นวิ่งเร็วมาก ซึ่งจะทำให้สายพานเส้นนั้นสึกหรอมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มความหนาของสายพานให้มากกว่าปกติเพื่อชดเชยเช่นกัน
ลองยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมบ้างว่าหากสายพานเส้นหนึ่งวิ่งโดยมีค่า Ft เท่ากับ 0.2 หมายความว่า ในเวลาเพียง 0.2 นาที (36 วินาที) สายพานก็วิ่งครบรอบแล้ว แสดงว่าสายพานเส้นนั้นต้องทำงานหนักมาก ดังนั้นอัตภาพการสึกหรอของผิวก็ต้องมีมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงมีคำนแนะนำให้เพิ่มความหนา จากค่าที่น้อยที่สุดเป็นอีก 2 เท่า
Conveyor Belt Covers: Characteristics,Composition,and Design
The cover garge required for a specific belt is a function of the material conveyed and the handling methods used.Increased cover thickness is required as the following conditions become more severe: material abrasiveness,maximum material lump size,material weight,height of material drop onto the belt, loading angle,belt speed,and frequency of loading as determined by the frequency factor.
Table 7-4. Suggested minimum carry thickness for normalcondotions: RMA-Grade II belting .
Class of Material
|
Examples
|
Thickness (inches)*
|
Package handling
|
cartons, food products
|
Friction to 1/32
|
Light or fine, nonabrasive
|
Wood chips,pulp,grain,bituminous coal, potash ore
|
1/16 to 1/8
|
fine and abrasive
|
Sharp sand, clinker
|
1/8 to 3/16
|
Heavy, crushed to 3" (76 mm)
|
Sand and gravel, crushed stone
|
1/8 to 3/16
|
Heavy, crushed to 8" (203)
|
R.O.M. coal,rock,ores
|
3/16 to 1/4
|
Heavy, large lumps
|
Hard ores, slag
|
1/4 to 5/16
|
*Note: Cover thicknesses are nonminal values subject to manufactureers'tolerances.
Table 7-5. Suggested minimum pulley thickness: RMA-Grade II belting.
Operating Conditions
|
Thickness (inches)*
|
Non-abrasive materials
|
1/32
|
Abrasive material
|
1/16
|
Impact loading
|
3/32
|
*Note: Cover thicknesses are nomial values subjact to manufacturers' tolernces.
**While an increasedcover gauge help protect the carcass,if impact is sever, a correct systemdesign
that includes carcass design, top cover thickness, and impact-absorbing belt suppprt in the conveyor
loading zone is the preferred method of handing.
Deteriorating Conditions
Table 7-6 establishes the basis for determiniing cover quality for conditions which attack or cause deterioration in belt. The actual cover thickness generally should follow the guidlines for a Grade II cover in Table 7-4. For all special material not listed, or wher extreme concentrations of chemical solitions are likely to be enconuntered, a belt manufacturer should be consulted to determine appropriate cover quelity and thickness.
“...เลือกสายพานไทยไว้ดูและระบบสายพานลำเลียงของท่าน เพราะด้วยอุดมการณ์ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์
และของทีมงาน ท่านจะวางใจได้ว่าระบบของท่านจะไม่สะดุด เพราะสายพานหยุดเดิน...”